SOTUS คนเซียนปราบเด็กเกรียนขั้นเทพ
ตอนที่ 12 สับสนกับเพศตัวเอง
ผมเกร็งหน้าท้องรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่พี่มาร์คทำแบบนี้
แอบคิดนะว่ามันแปลกผมไม่ได้อยู่ในสถานะของคนควรงอนแล้วพี่มาร์คจะง้อไม่ง้อก็เรื่องของเขา
ดวงตาคมส่อแววอารมณ์ต้องการชัดเจนผมเม้มปากอย่างห้ามไม่ได้
“เรื่องไหนที่งอนกูบอกมาทีละเรื่อง”
พี่มาร์คนี่เก่งนะ เก่งเรื่องทำให้ผมใจเต้นได้ตลอด
“พี่ไปนอนกับพี่เอ็มม่า..”
ผมพูดเสียงเบา
“ไปนอนก็จริง
แล้วมึงรู้รึเปล่าว่ากูไปนอนกับเขากูนึกถึงมึงตลอด..” ผมหน้าร้อนผ่าวข้างแก้ม
แล้วก้มหน้าซบกับไหล่กว้างกัดเบาๆที่หัวไหล่ พี่มาร์คก็เลื่อนมือต่ำลงบีบที่ก้นผมเบาๆผมไม่ได้ดีดตัวออกแต่ปล่อยเลยตามเลย
“กูคิดถึงของมึงตลอด
คิดถึงสัมผัสมึง.. วันที่มึงหนีกูแล้วกูไม่ตามเพราะคิดว่ามึงคงอยากกลับไปหาแฟนมึง”
“พี่ทำให้ผมสับสนนะ”
ผมพูดอู้อี้บนไหล่ แล้วระดมกัดเรื่อยๆด้วยความหมั่นเขี้ยวจนน้ำลายมันเยิ้มเลอะเสื้อนักศึกษาพี่มาร์ค
พี่มาร์คกระชับวงแขนแน่นขึ้นแล้วซุกหน้าลงกับซอกคอผม
มือหนาก็บีบเค้นก้นผมอย่างเบามือเสื้อนักศึกษาผมถูกปลดออกจนมันร่วงหล่นลงกับพื้นผม
จริงๆกฎของปีหนึ่งต้องใส่เสื้อกล้ามด้วยนะไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงแต่ผมไม่
“ทำไมไม่ใส่เสื้อกล้าม?” พี่มาร์คบีบก้นผมเบาๆผละหน้าออกจากซอกคอแล้วถามผมเสียงเรียบ
“ร้อน”
ผมตอบแล้วซุกหน้าลงกับไหล่ต่อ มือข้างที่ว่างผมก็กอดคอเขาเอาไว้
“น่าตี”
พี่มาร์คไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้มาก เขาสูดดมอย่างกระหายทั้งๆที่เรายังเคลียร์กันไม่จบแต่ผมก็ยอมปล่อยให้พี่มันทำแบบนี้มีหลายอย่างที่ค้างคาใจแต่ผมยังไม่ได้ถาม
“อื่อ..”
ผมครางในลำคออย่างพอใจเมื่อพี่มาร์คก้มกัดที่ยอดอกตัวเอง
ผมใช้มือขยุ้มเส้นผมน้ำตาลอย่างหวาดเสียว
“ก..กลับไปทำที่คอนโดดีกว่ามั้ยพี่มาร์ค..”
ผมพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นไหวพร้อมกับดันตัวเขาออกเพิ่งนึกได้ว่านี่เป็นมหาลัยอีกอย่างผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ถ้าจะมาทำอะไรในสถาบันตัวเอง
ผมเคยแฉพี่มาร์คที่ทำเรื่องแบบนี้
และตอนนี้ผมก็กำลังจะทำมัน.. ให้ตายสิ พี่มาร์คทำผมนิสัยเสียหลายอย่างเลยนะ
“ไม่เอา จะทำตรงนี้”
พี่มาร์คยังดื้อเขาพลิกตัวผมให้พิงกับโต๊ะยาวแทนแล้วผลักผมนอนราบลง
ผมเลยใช้แขนทั้งสองข้างดันตัวเองเอาไว้ผงกหัวส่งเรียกเตือนอีกที
“เป็นประธานนักศึกษาไม่ใช่หรือไง
พี่จะมาทำอะไรในที่แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน”
ผมพูดน้ำเสียงจริงจังพี่มาร์คถอนหายใจหนักแล้วก้มลงเก็บเสื้อนักศึกษาของผมโยนมาให้ผมใส่
“งั้นก็ไปนอนคอนโดกับกู”
พี่มาร์คยืนค้ำเอวแล้วเดินไปหยิบของกลับบ้าน
เอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะพี่มันก็รวบๆกองกันไว้แล้วยัดใส่กระเป๋าเป้อีกที
ผมติดกระดุมเสร็จก็เดินตามพี่มาร์คออกไป
ระหว่างเดินไปที่รถไม่มีเสียงพูดอะไรกันเลย
พี่มาร์คจับมือผมไม่ยอมปล่อยเหงื่อทื่อผมออกเยอะเพราะตื่นเต้น
ผมยอมพี่มัน..ยอมให้พี่มันพาไปที่คอนโดแบบเต็มใจอีกครั้ง
พอมาถึงหน้าตึกก็เห็นเขารับน้องยังไม่เลิก
พวกรุ่นพี่ที่ว้ากใส่ผมก่อนหน้านั้นก็มองมาทางนี้ซะด้วยผมเบือนหน้าหนีไม่อยากขอโทษรู้ว่าตัวเองผิดแต่พวกนั้นก็ผิดไม่ใช่รึไง
“เรื่องค่ายมึงคิดเสร็จแล้วเหรอถึงออกมาเนี่ย”
พี่แจ็คสันเดินมาทักผมมองหน้าพี่เขานิดหน่อยแล้วเบะปากใส่อย่างหมั่นไส้
พอเห็นแบบนั้นพี่แจ็คสันก็ตั้งท่าเข้ามาจะหาเรื่องผมอีกแต่โดนพี่มาร์คกันไว้
“เปล่า กูจะกลับ”
“เออ หนีกลับก่อนตลอดเป็นประธานห่าอะไรวะให้พวกกูมาทำแทบทุกวันเสียงกูแทบไม่มีแล้วนะเว้ย”
พี่แจ็คสันโวยวายเบาๆ
“ถ้ามึงพูดมากกูจะสั่งมึงทำโทษ
กูฝากด้วยแล้วกัน” พี่มาร์คชี้หน้าเพื่อนตัวเองแล้วออกแรงดึงให้ผมตามพี่มันไปที่รถ
เกิดความเงียบเข้ามาครอบงำเพราะพี่มาร์คไม่ได้ออกรถแต่นั่งเงียบเหมือนคนคิดอะไรอยู่
ผมเองก็คิด..
“ผมถามอย่างนึงได้ไหม..”
ผมเว้นจังหวะในการพูดแล้วสูดอากาศหายใจเข้าปอดก่อนจะพูดต่อ “พี่ทำแบบนี้ทำไม”
“...”
“ผมน่ะมีแฟนแล้วนะ พี่ก็มี”
“แล้วไง
กูก็บอกให้มึงไปเลิกกับแฟนมึงดิ่ทุกอย่างมันจะง่าย”
ผมอ้าปากค้างกับคำพูดที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างง่ายไปหมด
“ผมบอกไว้ตรงนี้เลยนะไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องเลิกกับยองจี
ยองจีไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วตอนนี้เราก็กลับมาคบกันเหมือนเดิม
ถ้าพี่ต้องการแค่ร่างกายผมอยากเอาชนะผมมากนักผมให้ก็ได้
แต่ขอร้องเถอะขอครั้งนี้ครั้งสุดท้ายได้ไหม
พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้เรื่องมันวุ่นวาย” ผมสารภาพออกไปจนหมดเปลือกพี่มาร์คน่ะดีแต่ทำให้ผมสับสนไม่ชัดเจน
ผมก็ไม่รู้ความรู้สึกตัวเองผมแค่ไม่อยากให้เรื่องมันลามปามไปกันใหญ่
ก่อนหน้านี้ผมคบกับยองจีก็โอเคดีมันดูไม่วุ่นวาย
“ก่อนพูดน่ะคิดรึเปล่าว่ากูเจ็บ
มึงพูดเหมือนแคร์เขา มึงเคยแคร์กูรึเปล่า!”
พี่มาร์คตบพวงมาลัยรถแล้วหันมาตวาดใส่ผมเสียงดังคับรถ
ผมตกใจแต่ก็ตีหน้านิ่งจ้องตากลับอย่างไม่ยอมแพ้
ให้มันรู้ไปเลย
ใครหลบตาก่อนแพ้!!
เคลียร์วันนี้ให้มันจบๆ!!
“พี่พูดเหมือนจะจีบผม?”
“กูไม่ได้จีบมึง”
เห็นไหมล่ะ พอถามตรงจุดพี่มาร์คก็ปฎิเสธผมเลยไม่รู้จะพูดยังไง
“งั้นปล่อยผมไปเหอะ รำคาญ”
ผมพลั้งปากออกไปโดยไม่คิดรู้ตัวอีกที ไอ้ห่ากูพูดไปได้ไงอารมณ์โมโหล้วนๆ
“...”
ความเงียบเข้ามาปกคลุม
พี่มาร์คไม่มองหน้าผมเลยซักนิดผมก็ไม่ได้พูดอะไร อึดอัดก็อึดอัดแต่ทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งที่มาร์คยอมหันหน้ามาคุยกับผม
“ถ้ารำคาญกูมากก็ลงไป”
ปัง!!
ทันทีที่พี่มาร์คพูดจบผมรีบดันตัวเองออกจากรถคันนั้น
ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อยแต่พี่มาร์คนั่นแหละ พี่มาร์คเป็นคนทำ
ผมลงจากรถมาได้แป๊บเดียวพี่มาร์คก็บึ่งรถออกไปทันที ผมยืนมึนอยู่ที่เดิมไม่รู้จะไปทางไหนเลยตัดสินใจกลับหอ
:: MARK PART ::
ผมไล่แบมแบมลงจากรถตัวเองแล้วขับออกมาด้วยอารมณ์โกรธ
ผมไม่คิดว่าเด็กมันจะลงไปจริงๆ
บางทีผมก็แค่พูดออกไปลอยๆไม่ได้อยากให้มันลงไปซักหน่อย
ผมเคยพูดเหรอว่าจะจีบมัน? ก็ไม่ ผมไม่ชอบให้ใครมาจี้จุดแบบนี้มันดูเสียหน้า
ยอมรับว่าผมหยอดมันบ่อยจนมันสับสน
มันไม่สนุกด้วยผมก็ไม่สนุกแต่ทำไมต้องบอกว่าผมจีบผมด้วยล่ะ ต้องบอกด้วยเหรอ
การกระทำมันสำคัญกว่านะ
“เอ็มม่า! เปิดประตู” ผมเคาะประตูห้องเอ็มม่าเสียงดัง
ผมมาหาเธอโดยไม่ได้นัดล่วงหน้าแต่คาดว่าเธอคงอยู่
“มีอะไรคะ”
เอ็มม่าเดินออกมาชุดนักศึกชุดเดิมเหมือนว่าเพิ่งกลับจากเรียนมาหมาดๆ
ผมแทรกตัวเข้าไปในห้องแล้วเดินไปนั่งบนโซฟายาว เอ็มม่าเดินตามมานั่งข้างๆด้วย
“มาร์คเป็นอะไร?”
“ทำให้ผมหายโมโหที”
ผมไม่ได้ตวาดเธอแต่เอ็มม่าดูตกใจที่ผมพูดแบบนี้ ทุกครั้งที่มีอะไรกันผมจะไม่เป็นแบบนี้เลย
ผมอยากก็จัดการแต่ครั้งนี้ผมไม่ได้อยากแต่ผมอยากระงับอารมณ์โมโห
นึกถึงหน้าเด็กคนนั้นทีไรก็หงุดหงิดทุกที
เอ็มม่าเป็นผู้หญิงที่สวยผ่านมือคนมาเยอะแม้กระทั่งกับแบมแบม..
ทุกครั้งที่มีอะไรกันผมก็ต้องป้องกันผมไม่พลาดเรื่องแบบนี้หรอก ใบหน้าสวยเข้ามาคลอเคลียที่ต้นคอบรรจงจูบซับให้ผมรู้สึกตามไปด้วย
ตอนนี้ผมหงุดหงิด
ผมยอมรับว่าตัวเองกำลังพาล มันผิดตรงไหนที่ผมอยากให้แบมแบมเลิกกับแฟน
มันผิดตรงไหนกัน
ผมหลับตาลงเอนตัวพิงกับพนักโซฟาผ่อนตามสบาย
เอ็มม่าเลื่อนตัวลงไปอยู่ข้างล่างคุกเข่าลงก่อนจะปลดกางเกงผมออกถกให้มันต่ำลงมาถึงหัวเข่า
ลิ้นร้อนไล่เลียส่วนปลายหัวราวกับไอกรีมรสโปรด
ผมใช้มือที่ว่างจับไหล่เอ็มม่าด้วยความกระสัน
เอ็มม่ายังคงครอบครองของผมอย่างต่อเนื่องปากเล็กทำงานได้ดีตามคาดมีเซ็กส์กับเอ็มม่าผมไม่เคยผิดหวัง
มือเล็กจับโคนแล้วชักเบาๆทั้งปากก็อมส่วนนั้นไปด้วย
แน่นอนว่าเธอครอบครองของผมไม่มิดแต่เธอทำได้ดี
แต่ก่อนที่ผมจะปลดปล่อยผมก็บอกให้เธอหยุด ผมไม่ชอบแตกคาปากใครเลยเอาจริงๆ
ผมดึงเอ็มม่าให้ขึ้นมานั่งบนโซฟาแทนแล้วสลับกับผมที่ลงไปนั่งข้างล่าง
เอ็มม่าใส่กระโปร่งสั้นง่ายต่อการถอดผมคุกเข่าแล้วดึงกระโปร่งลงจนตกมาอยู่ที่ข้อเท้า
เอ็มม่าดูจะรู้งานเธอเห็นผมถอดกระโปรงเธอออกเธอก็เลยจัดการกับกางเกงในตัวจิ๋ว
ผมแหวกขาเรียวแยกออกจากกันก้มลงบนกลีบเนื้อ
ผมไล่เลียอย่างรู้จุด
ผมรู้ว่าตรงไหนที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกดี ผมทั้งใช้ลิ้นบางทีก็ใช้นิ้วตัวเองกดและสั่นไปมาจนเอ็มม่ากระสันบิดตัวด้วยความเสียว
“อา ..มาร์ค”
ผมเร่งจังหวะลิ้นพลางสอดนิ้วกลางเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม
เอ็มม่าเกร็งหน้าท้องอย่างเห็นได้ชัดเราไม่ได้มีอะไรกันบ่อยถ้าไม่ได้ล่าสุดที่ผมมาค้างกับเอ็มม่าน่ะนะ
ผมสอดนิ้วทั้งสามเข้าไปหมุนควงภายในให้ขยายพอสำหรับการรองรับสิ่งนั้นของผมอย่างน้อยก็ไม่น่าจะทำให้เอ็มม่าเจ็บเท่าไหร่
เมื่อเห็นว่ามันน่าจะพอสำหรับการเบิกทางครั้งนี้ผมก็ยืดตัวขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกให้หมดเอ็มม่าก็จัดการเสื้อผ้าของตัวเองทิ้ง
ผมเตะกางเกงนักศึกษาให้ไกลออกไป
ผมดันเอ็มม่านอนราบกับโซฟาอีกครั้งก่อนจะขึ้นคร่อม
ชักแก่นกายให้เตรียมความพร้อมสำหรับตอนนี้ มืออีกข้างก็ขยำหน้าอกอวบอิ่มที่ล้นมือ
ผมสอดแขนเข้าที่ข้อพับแล้วแทรกตัวตนของตัวเองเข้าไปจนสุดความยาวเอ็มม่าดันหน้าท้องผมไว้เป็นเชิงว่าอย่าเพิ่งขยับ
ผมปล่อยให้เธอนอนรวยรินไม่นานก็เริ่มขยับ
ถอนตัวออกแล้วกระแทกเข้าไปใหม่ผมกระชับสะโพกเอ็มม่าให้มั่นคงแล้วกดตัวเองให้ลงไปหนักๆหลายๆที
“อ๊า! อี๊..มาร์ค!!”
เอ็มม่าร้องลั่นเมื่อผมกดลงโดนจุดเสียว ผมเผลอพาลลงกับเอ็มม่าทั้งหมด
ไอ้เด็กแบมแบมมันมีสิทธิอะไรมาบอกว่าผมกำลังจีบมันกัน..
“อ้า..อา..มะ..อ่ะ มาร์ค”
มันมีสิทธิอะไรที่คิดว่าผมชอบมัน
ผมไม่ได้จีบมันซักหน่อย..ทำไมต้องถามเหตุผลให้มากความด้วยล่ะ
“อะ..ฮ๊า! มาร์ค..”
ผมมัวแต่คิดเรื่องแบมแบมก้มลงมามองเอ็มม่าอีกทีเธอก็นอนระทวยจ้องผมอย่างหวานเยิ้ม
มือบางจับข้อมือผมให้ไปสัมผัสกับหน้าอกอวบอิ่มอีกครั้ง
ผมก็บีบเค้นด้วยความมันส์มืออดคิดถึงแบมแบมไม่ได้
หน้าอกเอ็มม่านุ่มมือกว่าหน้าอกแบนเรียบของเด็กนั่นตั้งมากมาย
ทำไมผมถึงไปติดใจของแบบนั้นกันได้ล่ะ
เอ็มม่าครางอย่างต่อเนื่องผมก้มลงดูดยอดอกสีชมพูตวัดลิ้นเลียจนมันเกิดเสียง
ช่วงล่างยังขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่องเป็นจังหวะ
จนน้ำรักมันกำลังดันตัวเองออกมาผมก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
“ม..มาร์ค!! ฮื้ออ อ๊า!”
เอ็มม่าหวีดร้องเสียงเมื่อเห้นว่าผมรุกหนักกว่าเดิมจนเธอผวาจะกอดแต่ผมไม่สนใจแถมยังกระชับสะโพกให้รองรับอารมณ์ของผมจนมันจะแตกในให้ได้
ผมดึงลูกชายของตัวเองออกมาแล้วจับมันมารีดน้ำบนหน้าท้องเอ็มม่า
ครั้งนี้ผมไม่ได้สวมถุงยางแต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยในให้อันตรายหรอก
เอ็มม่าก็คงจะไม่ชอบใจที่ผมจะปล่อยในเธอมองการกระทำผมซักพักแล้วยิ้มออกมา
“สบายใจหรือยัง..”
เสียงเอ็มม่าติดหอบนิดหน่อยเพราะกิจกรรมที่เพิ่งจบไปเมื่อครู่
ความรู้สึกผิดตีตื้นเข้ามา ผมมองร่างกายเอ็มม่าที่ติดสั่นเล็กน้อยขาเรียวตั้งฉากแถมยังสั่นนิดๆ
เมื่อกี้ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองรุนแรงกับเอ็มม่ามากกว่าครั้งก่อนๆ
แต่เป็นแบบนี้
เอ็มม่าก็ยังยิ้มให้ผม..
“ยังไม่สบายใจเหรอ
เล่าให้เอ็มม่าฟังได้ไหม” เอ็มม่าพยายามหยัดกายขึ้นผมเดินไปหยิบเสื้อผ้าให้เอ็มม่าใส่
เธอรับมาแล้วใส่แบบลวกๆ
ผมใส่เสื้อผ้าแล้วหยิบบุหรี่ที่ติดมาด้วยในกระเป๋ากางเกง
นานแล้วที่ผมไม่ได้สูบตอนมัธยมปลายผมสูบจัดจนพ่อบอกให้เลิกผมพยายามอยู่นานโดยการเคี้ยวหมากฝรั่งแทน
จนตอนนี้ผมเลิกสูบแต่ก็ยังพกติดตัวตลอด ผมจะสูบเฉพาะเวลาเครียดจัด
ในกลุ่มผมมันก็สูบกันทุกคนแต่มีแจบอมที่มันสูบจัด
สูบจนพวกผมห้ามไม่ฟังมันพยายามจะเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้
มันอยากบุหรี่มากวันหนึ่งก็สูบไปหลายตัวถ้าเดินใกล้มันผมจะได้กลิ่นบุหรี่จากตัวมันตลอด
“มาร์ค..ลองมองเอ็มม่าแบบเพื่อนสิ่
ไม่ต้องมองแบบคู่นอนถ้ามาร์คไม่สบายใจบอกเอ็มม่าได้นะ” เอ็มม่ายังพูดต่อ
ผมก็อัดสารนิโคตินเข้าปอดอย่างหนักๆแล้วพ่นออกมา
จากหนึ่งมวนเป็นสองมวนจากสองก็กลายเป็นสาม
เอ็มม่าไม่ได้ห้ามแต่มองผมด้วยคำถามมากมาย
เธอถามผมตลอดแต่ผมก็ไม่ได้ตอบเธอซักประโยคเหมือนกัน
ผมยังไงก็เป็นผม ผมรู้ตัวว่ากำลังพาลแต่ไม่อยากลงกับเอ็มม่าอีก เลยหันมาสูบบุหรี่พลางนึกถึงไอ้ตัวการที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้
ป่านนี้คงจะนอนหลับฝันดีไปแล้วมั้งที่ผมเลิกยุ่งกับมันน่ะ
#พี่มาร์คเฮดว้าก
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบตอนนี้อ่ะ สงสารเอ็มม่ามากๆโดนพี่มาร์คกดขี่ข่มเหงก็ยังอยู่ข้างพี่มาร์ค นี่ไม่ใช่ ncของมาร์คแบมนะคะ แต่เป้นของ #มาร์คม่า #มาร์คเอ็ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น